หนังสังเคราะห์หรือหนังเทียมนั้นไม่ทารุณสัตว์และมีจริยธรรมเป็นหัวใจสำคัญ หนังสังเคราะห์มีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าหนังที่ทำจากสัตว์ แต่ก็ยังคงทำจากพลาสติกและเป็นอันตราย
หนังสังเคราะห์หรือหนังเทียมมี 3 ประเภท:
หนัง PU (โพลียูรีเทน),
พีวีซี (โพลีไวนิลคลอไรด์)
ชีวภาพ
มูลค่าตลาดของหนังสังเคราะห์ในปี 2020 อยู่ที่ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2027 โดย PU มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 55% ในปี 2019 การเติบโตที่น่าจับตามองนี้เป็นผลมาจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นั่นคือ กันน้ำ นุ่มกว่า PVC และเบากว่าหนังแท้ สามารถซักแห้งได้และไม่โดนแสงแดด PU เป็นทางเลือกที่ดีกว่า PVC เพราะไม่ปล่อยไดออกซิน ในขณะที่วัสดุชีวภาพมีความยั่งยืนที่สุด
หนังชีวภาพผลิตจากโพลีเอสเตอร์โพลีออล และมีส่วนประกอบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 70% ถึง 75% หนังชีวภาพมีพื้นผิวที่นุ่มกว่าและมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่า PU และ PVC เราคาดว่าผลิตภัณฑ์หนังชีวภาพจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงคาดการณ์
บริษัทหลายแห่งทั่วโลกมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้พลาสติกน้อยลงและใช้พืชมากขึ้น
หนังชีวภาพทำจากส่วนผสมของโพลียูรีเทนและพืช (พืชอินทรีย์) และมีค่าคาร์บอนเป็นกลาง คุณเคยได้ยินเรื่องหนังกระบองเพชรหรือหนังสับปะรดไหม? มันเป็นหนังออร์แกนิกและย่อยสลายได้บางส่วน แถมยังดูสวยงามน่าทึ่งอีกด้วย! ผู้ผลิตบางรายพยายามหลีกเลี่ยงพลาสติกและใช้วิสโคสที่ทำจากเปลือกยูคาลิปตัส ซึ่งยิ่งดีขึ้นไปอีก บริษัทอื่นๆ พัฒนาคอลลาเจนหรือหนังที่ปลูกในห้องปฏิบัติการจากรากเห็ด รากเหล่านี้เติบโตบนขยะอินทรีย์ส่วนใหญ่ และกระบวนการนี้จะเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่คล้ายหนัง บริษัทอื่นบอกเราว่าอนาคตทำจากพืช ไม่ใช่พลาสติก และสัญญาว่าจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการ
มาช่วยให้ตลาดหนังชีวภาพเติบโตกันเถอะ!
เวลาโพสต์: 10 ก.พ. 2565